รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ บุกตรวจควายตายหาสาเหตุพร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรัศมี 5 กิโลเมตร ตรวจสอบสัตว์ชี้ห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด หาสาเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมกำชับเจ้าของควายชิ้นส่วนที่ชำแหละควายทั้งหมดต้องผังอย่างถูกต้องทั้งหมด เจ้าของควายพอใจควายหยุดตายเตรียมประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว
วันที่ 9 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ที่ 11 ตำบลหนองหญ้าไซ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ควายของนายสุชาติ มะลิทอง ทยอยตายอย่างต่อเนื่อง ไปแล้วจำนวน 5 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาสาเหตุพร้อมฉีดยาปฏิชีวนะให้แก่ควายทั้งหมดที่เหลือจำนวน 32 ตัว ล่าสุดควายทั้งหมดหยุดตายละไม่มีอาการผิดปรกติ
ล่าสุดนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมคณะเดินทางเข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียดพร้อมสอบถามสาเหตุในการเกิดโรคในครั้งนี้ว่าเป็นการเคลื่อนย้ายควายจากจังหวัดข้างเคียงเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่สุพรรณบุรีไม่มีการแพร่ระบาด พร้อมมอบนโยบายเพื่อวางแผนป้องกันการแพร่ระบาดของวัวและควายในพื้นที่ให้สามารถควบคุมได้อย่างทันเหตุการณ์พร้อมสั่งให้มีการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราวในขณะนี้และป้องกันการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตรโดยเด็ดขาด
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบที่อำเภอหนองหญ้าไซที่มีการตรวจพบกระบือตายด้วยโรคคอบวมนั้นพบว่าเป็นการเคลื่อนย้ายกระบือมาจากจังหวัดข้างเคียงโดยผิดกฎหมาย สำหรับโรคคอบวมเกิดจาดแบคทีเรียชนิดหนึ่งสามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้ การลงพื้นที่ตรวจพบว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เอกเทศไม่มีคอกโคกระบืออื่นอยู่ใกล้จึงสามารถควบคุมโรคได้ในวงจำกัด สำหรับขณะนี้ก็เฝ้าระวังในสัตว์ป่วยซึ่งไม่มีการตายของกระบือเพิ่มจากเดิมซึ่งถือว่าเราทำงานได้ตรงเป้าหมายตรงจุด สำหรับทุกปีโคกระบือจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบวมในเดือนธันวาคมแต่เนื่องจากเกิดโรคคอบวมจึงให้มีการฉีดวัคซีนโรคคอบวมในช่วงนี้เดือนพฤศจิกายนเพื่อป้องกันโคกระบือป่วยเพราะเป็นช่วงปลายฝนตนหนาวอยากให้ผู้เลี้ยงโคกระบือช่วยกันนำสัตว์ของท่านมาฉีดวัคซีนไม่เฉพาะจังหวัดสุพรรณบุรีขอให้เกษตรกรเร่งนำโคและกระบือฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบวมอย่างเร่งด่วนในขณะนี้
ส่วนมาตรการป้องกันอีกอย่างคือมีการตั้งด่านสกัดการเคลื่อนย้ายสัตว์ใครไม่มีใบเคลื่อนย้ายหรือตรวจสอบพบให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดทุกรายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีการชำแหละเนื้อกระบือที่ตายไปก่อนหน้านี้ให้เก็บชิ้นส่วนทั้งหมดฝังกลบพร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่ง ส่วนโรคคอบวมติดต่อสู่คนหรือไม่นั้นตอบได้ตรงนี้ว่าไม่ติดต่อสู่คนอย่างแน่นอน สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือที่มีการชำแหละชิ้นส่วนกระบือไปนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆเพราะการกินของคนจะทำให้สุกก่อนกินซึ่งไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และโรคนี้ไม่ติดต่อสู่คน
สำหรับวัคซีนที่ใช้ฉีดโคกระบือขณะนี้เป็นวัคซีนน้ำมันซึ่งมีข้อดีคืออายุวัคซีนอยู่ได้นานจึงยังคงมีปัญหาเรื่องของการเจ็บปวดของสัตว์ซึ่งอยู่ระหว่างการผลิตวัคซีนใหม่ออกมาให้สามารถใช่ง่ายขึ้นและสัตว์ไม่เจ็บปวดและไม่เป็นอันตรายต่อโคกระบือที่ตั้งครรภ์ซึ่งไม่ได้เกิดจากวัคซีนโดยตรงแต่เป็นผลข้างเคียงเรื่องของการเจ็บปวดจนโคกระบือสะบัดตัวอาจกระทบต่อลูกโคกระบือได้เท่านั้น ครั้งนี้โชคดีพบเร็วรายงานเร็วจึงสามารถควบคุมพื้นที่ได้อย่างรัดกุมและไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น