วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ แจง การสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย ’ 61



            การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา ตาแหน่งครูผู้ช่วย ให้บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้ ดังนั้น การเป็นผู้สมัครสอบแข่งขันจึงเป็นขั้นตอนแรกก่อนที่จะไปเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา(ถ้าสอบได้) “ครูผู้ช่วย” หมายถึง ผู้ช่วยครู ในการทาหน้าที่สอน หากแต่สถานภาพและหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างกับครู เพราะครูผู้ช่วยจะต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มเป็นเวลาสองปีก่อนแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง “ครู” (หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า การทดลองปฏิบัติราชการนั่นเอง) ถ้าผลการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มผ่านเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนดจึงจะได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งครู ตามนัยมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาอย่างเต็มภาคภูมิ และตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 กาหนดคานิยามว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา” หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ตามพระราชบัญญัตินี้และ “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งออกให้ผู้ปฏิบัติงานในตาแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามพระราชบัญญัตินี้

            การสอบแข่งขันตาแหน่งครูผู้ช่วย เป็นการดาเนินการตามกฎหมายโดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหว่างบุคคล การปฏิบัติและการคุ้มครองสิทธิอย่างเสมอภาคเท่าทียมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ราชการในอันที่จะได้ครูผู้ช่วยที่ดีมีความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกในเนื้อหาวิชาการและเมื่อครูผู้ช่วยที่สอบแข่งขันได้ดังกล่าวนี้ ผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนดแล้วเชื่อว่าจะได้ครูที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู และได้ครูที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกในเนื้อหาวิชาการด้วย

            ผู้ที่มีสิทธิสมัครสอบแข่งขันต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกาหนด (1) มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 (2) มีวุฒิไม่ต่ากว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่น ที่ ก.ค.ศ. กาหนด เป็นคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งตามมาตรฐานตาแหน่งนั้น (3) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอน ซึ่งในการสอบครูผู้ช่วยในปีนี้สาหรับประเภทวิชา หรือ สาขาวิชาขาดแคลนจะได้พิจารณาด้วยความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง โดยส่วนราชการ และ ก.ค.ศ. ต้องเห็นชอบก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้สมัครสอบแข่งขันทั่วไปมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบแข่งขันหากเป็นผู้สอบแข่งขันได้และถึงลาดับที่จะบรรจุและแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งครูผู้ช่วยจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือหลักฐานที่ใช้แสดงในการประกอบวิชาชีพครูตามที่คุรุสภาออกให้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สอนก่อนการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามที่มาตรฐานตาแหน่งครูผู้ช่วยกาหนดไว้ และใบอนุญาตหรือหลักฐานดังกล่าวนั้น ต้องยังไม่หมดอายุ

            สาหรับการสอบในปี 2561 ก.ค.ศ. ได้มีมติให้ดาเนินการสอบแข่งขันโดยมีสาระสาคัญตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ได้ใช้เหมือนกับการสอบแข่งขันครั้งที่ 1 ปี 2560 ที่ผ่านมา กรณีจึงมิใช่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ผ่านการสอบ ภาค ก ของ ก.พ. มีสิทธิสมัครสอบภาค ข และภาค ค ของ ก.ค.ศ. แต่อย่างใด

           อนึ่ง หากผู้ที่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาทางวิชาการศึกษาโดยตรงเมื่อพิจารณาหลักสูตรของ ก.ค.ศ. ในภาค ข ในส่วนที่เกี่ยวกับความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา มีคะแนน 75 คะแนน จากคะแนนเต็มของ ภาค ข 150 คะแนน แล้วก็นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้สมัครเข้าสอบแข่งขันที่สาเร็จการศึกษาในหลักสูตร 4 ปีจะสอบผ่านเหมือนผู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาทางวิชาการศึกษาโดยตรง


                                                                    พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ 
                                                                       เลขาธิการ ก.ค.ศ.


credit  อ.สุริยา สุนทโรทก   ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์  รายงาน
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น