ป.ป.ช. ภาค ๗ แถลงผลงานผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ในเขตพื้นที่ ภาค ๗ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
วันนี้(18 ก.ย.61)ที่โรงแรมริเวอร์แคว จ. กาญจนบุรี นายพิเชฐ พุ่มพันธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค ๗ ได้แถลงผลงานการปฏิบัติหน้าท่ี ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้ประกาศให้มีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 มีทั้งส้ิน 200 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ การกำหนดตำแหน่งเจ้าพนักงานของรัฐ การกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจไต่สวนและวินิจฉัย เจ้าพนักงานของรัฐในทุกระดับตำแหน่ง การห้ามมิให้เปิดเผยข้อมูลซึ่งมีลักษณะเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคล การกำหนด กรอบระยะเวลาการไต่สวน การมอบอำนาจให้เลขาธิการหรือหัวหน้าพนักงานไต่สวนมีอำนาจในการตรวจสอบ เบื้องต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อเร่งรัดให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในด้านการตรวจสอบ ทรัพย์สิน มีประเด็นท่ีน่าสนใจคือ คู่สมรสของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยา โดยมิได้จดทะเบียนสมรสด้วย นอกจากน้ียังมีการกำหนดให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมให้ความ ร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงกำหนดให้มีมาตรการเฝ้าระวังในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการอันอาจนำไปสู่การทุจริต โดยให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว เป็นต้น
ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ ได้ย้ายที่ทาการสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ ต้ังอยู่ ณ ศูนย์ราชการ จังหวัดนครปฐม ตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการ ประสานงานในพื้นที่ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในสังกัดสไนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ ทั้ง 8 จังหวัด (นครปฐม กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี) รวมท้ังการ ประสานงานในระดับพื้นท่ีกับหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งผลการการปฏิบัติราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 สรุปได้ ดังนี้
ภารกิจด้านการป้องกันการทุจริต
โครงการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานป้องกันการทุจริต โดยสานักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขต พื้นท่ี ภาค ๗ มีจำนวนท้ังสิ้น 370 โครงการ/กิจกรรม แบ่งเป็น. โครงการที่ใช้งบประมาณของสำนักงาน ป.ป.ช. จานวน 34 โครงการ
โครงการ/กิจกรรมท่ีไม่ใช้งบประมาณของสำนักงานป.ป.ช.จำนวน 336โครงการ/กิจกรรม
กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม รวมทั้งสิ้น 37, 746 คน แบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายท่ีเข้าร่วมโครงการที่ใช้งบประมาณของสพนักงาน ป.ป.ช. จำนวน 7,888 คน. กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมท่ีไม่ใช้งบประมาณ จำนวน 29,858 คน
2.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในพื้นที่ ภาค ๗ ได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับภารกิจด้านการ ป้องกันการทุจริต ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จำนวนรวมทั้งสิ้น 5,893,300.00 บาท โดยใช้จ่ายจริงเป็นเงิน จำนวน 4,972,851.15 บาท คิดเป็นร้อยละ 84.38
โครงการที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ ภาค ๗ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ และแผนการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ได้ให้ ความสำคัญกับการดำเนินโครงการเพื่อสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม การพัฒนาศักยภาพและความรู้ให้กับเครือข่าย การสร้างความตระหนักรู้ในความสำคัญของ ปัญหาการทุจริต การมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต การป้องกันการทุจริตเชิงรุก โดยเฉพาะการที่ ประชาชนในสังคมเห็นถึงผลกระทบอันร้ายแรงของการทุจริต และปฏิเสธการทุจริตในทุกรูปแบบ เช่น
โครงการSTRONG–จิตพอเพียงต้านทุจริต
โครงการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมจิตพอเพียงความอายและไม่ทนต่อการทุจริต ประจำปี ๒๕๖๑
โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเพื่อต่อต้านการทุจริต
โครงการส่งเสริมสังคมต้นแบบ“สังคมสุจริตสังคมวิถีชีวิตพอเพียง”
โครงการอปท.ของประชาชน
โครงการสร้างสังคมเฝ้าระวังต่อต้านการทุจริต
โครงการส่งเสริมท้องถิ่นปลอดทุจริตเป็นต้น
ร่วมกันกับโครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจในระดับพื้นที่ โดยเป็นโครงการ/กิจกรรมที่ไม่ใช้งบประมาณของสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งสิ้นจำนวน 336 โครงการ/กิจกรรม ดังต่อนี้
กระทรวงมหาดไทย160โครงการ/กิจกรรม
องค์กรสมาคมมูลนิธิด้านสื่อสารมวลชน59โครงการ/กิจกรรม
กระทรวงศึกษาธิการ39โครงการ/กิจกรรม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์10โครงการ/กิจกรรม
กระทรวงสาธารณสุข7โครงการ/กิจกรรม
รวมทั้งองค์กรอิสระ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และเครือข่ายภาคประชาชน
3 ภารกิจด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในภาค ๗ ได้ ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. งานตรวจสอบปกติ
การตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไว้ ในเขตพื้นที่จังหวัดของตนเอง โดยในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินรวมทั้งสิ้น 1,023 บัญชี ดังนี้
ผ่าน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป. ป. ช . ภ าค ๗ จำนว น 71 9 บัญชี
คณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินมีมติ จำนวน 196 บัญชี
คณะกรรมการ ป. ป. ช . มีมติ จำนวน 10 8 บัญชี
2. งานตรวจยืนยันข้อมูล
การตรวจยืนยันข้อมูล เป็นการตรวจเนื่องจากทรัพย์สินของผู้ยื่นเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ผู้ยื่น ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (แบบ ภงด. 90/91) หรือในกรณีที่ผู้ยื่นมีทรัพย์สินน้อยผิดปกติ ดำเนินการตรวจสอบโดยใช้วิธีการ เช่น มีหนังสือไปสอบถามข้อเท็จจริงหรือขอเอกสารหลักฐานจากสถาบันการเงิน ต่าง ๆ กรมการขนส่ง สำนักงานที่ดิน พาณิชย์จังหวัด กรมสรรพากร เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะทำการวิเคราะห์ ว่าผู้ยื่นมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือจงใจปกปิดทรัพย์สินหรือไม่ โดยในปีงบประมาณ 2561
ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการตรวจสอบ รวมทั้งสิ้น 107 เรื่อง ดังนี้
ผ่านผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค ๗ จำนวน 80 เรื่อง
คณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน มีมติ จำนวน 19 เรื่อง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ จำนวน 8 เรื่อง
3. งานตรวจสอบเชิงลึก
การตรวจสอบเชิงลึกเป็นการตรวจสอบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ตรวจสอบในกรณีที่ ผู้ยื่นจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เนื่องจากเห็นว่าการที่ผู้ยื่นจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นการจงใจหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและจงใจปกปิดทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการดารงตำแหน่ง วิธีการตรวจสอบเช่นเดียวกับการตรวจยืนยันข้อมูล แต่จะตรวจโดยละเอียดยิ่งขึ้น รวมทั้งสิ้น 25 เรื่อง ดังนี้
ผ่านผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค ๗ จำนวน 22 เรื่อง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ จำนวน 3 เรื่อง
4. กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ
๔.๑ ผลการดำเนินการเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ หรือยื่นบัญชีฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ รวม 24 ราย ดังนี้
กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ 19 ราย / กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 5 ราย
ภารกิจด้านการปราบปรามการทุจริต
มีเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 1,314 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องอยู่ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน จานวน ๑,๑๖1 เรื่อง และเป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน ๑53 เรื่อง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จำนวน ๑,๑๖1 เรื่อง
เรื่องค้างเก่า จำนวน 882 เรื่อง
เรื่องรับใหม่ จำนวน 278 เรื่อง
ผลการแสวงหาข้อเท็จจริง
อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริง จำนวน 736 เรื่อง
คณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำภาค 7 มีมติ จำนวน 340 เรื่อง
ดำเนินการเสร็จ จำนวน 85 เรื่อง
มีคำสั่งให้ไต่สวน จำนวน 19 เรื่อง
ส่งกลับพนักงานสอบสวน จำนวน 17 เรื่อง / ไม่รับไว้ดพเนินการไต่สวน จำนวน 49 เรื่อง
๒. เรื่องไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 153 เรื่อง/ เรื่องค้างเก่า จานวน 134 เรื่อง
เรื่องรับใหม่ จำนวน 19 เรื่อง
ผลการไต่สวนข้อเท็จจริง
อยู่ระหว่างไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 111 เรื่อง / อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 19 เรื่อง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ จำนวน 22 เรื่อง/ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด จำนวน 19 เรื่อง /ให้ข้อกล่าวหาตกไป จำนวน 3 เรื่อง
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าว
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น