วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

สระบุรี มอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ




              จังหวัดสระบุรีมอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558






               วันนี้ (29กันยายน 2558) เวลา 13.30 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานมอบบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โดยนางอังคณา พุฒิวิญญู นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีและคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ด้วย









               สำหรับโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ยากไร้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โดยจังหวัดสระบุรีได้ดำเนินการซ่อมซ่อมและปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยให้ผู้ยากไร้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างมั่นคง ซึ่งการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยในครั้งนี้ได้เข้าซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านพักให้แก่นางสำรวย พรมศรีบ้านเลขที่ 11/1 หมู่ที่2ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี  เนื่องจากมีฐานะยากจน และบ้านที่อาศัยอยู่ชำรุดทรุดโทรมโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณวัสดุในการก่อสร้างจากงบประมาณจำนวน  100,000บาท จากงบอบต.โคกแย้และบริษัทกระกระดาษไทย จำกัด(หนองแค) ใช้ช่างคุมงานและแรงงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลโคกแย้และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในชุมชน ในการก่อสร้างจนสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย และมอบให้กับนางสำรวย พรมศรี อายุ69ปีและครอบครัวได้เข้าพักอาศัย



             ต่อมาเวลา14.00น.ได้เดินทางมามอบบ้านหลังที่2ที่บ้านโคกม่วงที่ทำการซ่อมซ่อมและปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยให้ผู้ยากไร้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างมั่นคง ซึ่งการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยในครั้งนี้ได้เข้าซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านพักให้แก่นาย สมพร สร้อยแก้ว อายุ67ปีบ้านเลขที่ 21/1 หมู่ที่1ตำบลคชสิทธิ์อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี  เนื่องจากมีฐานะยากจน และบ้านที่อาศัยอยู่ชำรุดทรุดโทรมโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณวัสดุในการก่อสร้างจากงบประมาณจำนวน  90,000บาท จากงบสนับสนุนจากเหล่ากาชาดสระบุรีและได้รับการสนับสนุนปูนซิเมนต์จาก อบต.คชสิทธิ์และใช้ช่างคุมงานและแรงงานจากองค์การบริหารส่วนตำบลคชสิทธิ์และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในชุมชน ในการก่อสร้างจนสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย และมอบให้กับนายสมพร สร้อยแก้วและภรรยาพร้อมครอบครัวได้เข้าพักอาศัยสร้างความปลื้มปิติแก่ผู้ได้รับพระมหาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนผู้ยากไร้ได้มีที่อยู่อาศัยตลอดไป





(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี จัดมหกรรมเยาวชนชี้นำ ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น





               ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 วัดประตูสาร อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ มหกรรมเยาวชนชี้นำ ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นสุพรรณบุรี  พร้อมด้วยนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สุพรรณบุรี นายเอกพันธุ์  อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี พร้อมคณะสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี และนักเรียนกว่า 100 คน เข้าร่วมงาน





                 โดยนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี   กล่าวว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้ปี 2528 เป็นปีเยาวชนสากลและขอให้ประชาชนสมาชิกร่วมเฉลิมฉลองปีเยาวชนสากล ภายใต้คำขวัญ  “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยพัฒนา ใฝ่หาสันติ” โดยสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี มีการจัดกิจกรรมเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ของกลุ่มต่าง ๆ ของจังหวัดอย่างเป็นระบบเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีในด้านต่าง ๆ เพื่อจะได้ร่วมกันทำประโยชน์และสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพิ่มมากขึ้น




              ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดงจากนักเรียน มีการร่วมร้องเพลงมาร์ชเยาวชนชาติไทย มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้กับเด็กและเยาวชนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดสุพรรณบุรี และเยาวชนดีเด่นในสาขาต่าง ๆ มอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 วัดประตูสาร อ.เมืองสุพรรณบุรี ได้มีการจัดนิทรรศการจากสภาเด็กและเยาวชนของแต่ละอำเภอ




เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย




             ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์  จองพานิช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า     สมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย   ร่วมกับ สภาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุพรรณบุรี และโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี   จัดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย  ครั้งที่ 12 ประจำปี   2558  ระหว่างวันที่ 30ก.ย.- 6 ต.ค.58   ซึ่งรู้สึกมีความยินดี  ที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเกียรติจากสมาคมเนตบอลแห่งประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพ  ในการจัดการแข่งขันกีฬาเนตบอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มียุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนากีฬาอย่างยั่งยืน   เป็นการส่งเสริมให้นักกีฬาเนตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันได้มีโอกาสพัฒนาฝีมือ และแสดงความสามารถ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป   การแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะชิงความเป็นหนึ่งทางด้านกีฬาแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือมิตรภาพที่ดี ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และการเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน







                ด้านว่าที่ร้อยตรี ดร.อานนท์   สำรวจการณ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี   กล่าวว่า     การเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านกีฬาของจังหวัดสุพรรณบุรี ดังที่ นายบรรหาร  ศิลปอาชา นายกสภาสถาบันการพลศึกษา เน้นการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล  ปรารถนาให้กีฬาอยู่ในหัวใจของชาวสุพรรณบุรี  ตลอดจนเป็นการยกระดับมาตรฐานกีฬาเนตบอลของประเทศไทยให้สูงขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศให้แก่นักกีฬาเนตบอล สนับสนุน  ส่งเสริมนักเรียน  นักศึกษา  เยาวชน  และ  ประชาชนให้มีความตระหนักถึงประโยชน์ของการกีฬา เพื่อพัฒนาร่างกายและจิตใจ  รวมถึงการมีระเบียบ มีวินัย  มีน้ำใจนักกีฬา  การเคารพในกติกา และความสามัคคีในหมู่คณะอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการปกครองของระบบประชาธิปไตย และเพื่อให้นักกีฬาได้เชื่อมความสัมพันธ์อันดีและมิตรภาพที่ดีต่อกัน






เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี รวมพลังภาคเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงต้านการทุจริตคอร์รัปชัน



           ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จังหวัดสุพรรณบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลงด้วยความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันระหว่างจังหวัดกับภาคเอกชน




           ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงด้วยความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันระหว่างจังหวัดกับภาคเอกชน ณ ห้องประชุมขุนแผน ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี   โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต นโยบายของรัฐบาลและแนวทางการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้เกิดการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล ป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน  รวมทั้งประสานความร่วมมือในการตรวจสอบการดำเนินงานป้องกันการทุจริต อันจะส่งผลต่อการลดปัญหาการทุจริตของประเทศให้น้อยลง และเกิดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน




             ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารหน่วยงานองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนชาวสุพรรณบุรี  ร่วมกันแสดงจุดยืน ต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อรเตือนภัยและตอกย้ำให้สังคมทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ด้วยการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดกิจกรรมต่างๆ  รณรงค์สร้างจิตสำนึกแก่คนในสังคมให้ ลด ละ เลิก และปฏิเสธการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกจิตสำนึกแก่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต ตระหนักถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่สังคมส่วนรวมอันเนื่องมาจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น




เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

สุพรรณบุรี คัดตัวเซปักตะกร้อนักเรียนไทยร่วมแข่งขันอาเซียนสคูลเกมส์ที่บรูไน




              สุพรรณบุรี   คัดตัวเซปักตะกร้อนักเรียนไทยร่วมแข่งขันอาเซียนสคูลเกมส์ที่บรูไน ผู้จัดการทีมจากสุพรรณบุรี ทุ่มงบดูแลค่าใช้จ่าย ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ธนบุรี นายกมล ตันกิมหงษ์  หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเซปักตะกร้อชายทีมชาติไทย และนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมเซปักตะกร้อนักเรียนไทยอายุ 18 ปี ทำการคัดเลือกตัวนักกีฬาเซปักตะกร้อตัวแทนนักเรียนไทยรุ่นอายุไม่เกิน 18  ปี ที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่บรูไน อาเซียนสคูลเกมส์ ระหว่างวันที่ 21-29 พ.ย.58 โดยมีทีมเซปักตะกร้อจากโรงเรียนต่างๆเข้าร่วมคัดตัวจากทั่วประเทศ โดยนายกมล กล่าวว่ากรมพลศึกษาได้หารือว่าจะทำอย่างไรให้ทีมตะกร้อนักเรียนไทยมีความพร้อม เนื่องจากงบประมาณของทางราชการนั้นเรามีเวลาเก็บตัวแค่เดือนเดียว ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ทีมแข็งแกร่งและสมบูรณ์ จึงได้เชิญนายวิทยา มาเป็นผู้จัดการทีม เพื่อเตรียมทีมในด้านต่างๆ สำหรับความสมบูรณ์ของนักกีฬาในปีนี้ เราจะทำการปะลองกับนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย และนักกีฬาตะกร้อไทยแลนด์ลีกของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยสถานที่เก็บตัวจะทำการฝึกซ้อมที่มหาลัยกรุงเทพฯส่วนหนึ่ง ก่อนที่จะตัดตัวเหลือตัวจริงและเดินทางไปเก็บตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยนายวิทยา จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องขอขอบคุณนายวิทยา ที่สละเวลาทั้งกำลังกายกำลังทรัพย์ด้วยใจรัก มาเป็นผู้จัดทีมตะกร้อนักเรียนไทยชุดที่จะเข้าร่วมแข่งขันที่บรูไน
“ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองมาเลเซีย เพราะมาเลเซียมีการเก็บฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน และนำทีมที่เก็บตัวฝึกซ้อมมาแข่งขันในรายการคิงส์คัพที่ประเทศไทยแล้ว ฉะนั้นถือว่าความพร้อมความสมบูรณ์ของทีมมาเลเซียนั้นถือว่าแข็งแกร่งมาก แต่ของเราเพิ่งจะเริ่มทำการเก็บตัว เนื่องจากงบประมาณของทางราชการที่มีความจำกัด”





                   ด้านนายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมฯกล่าวว่าการคัดตัวนั้นจะเน้นนักกีฬาที่มีความสามารถจริงๆจะไม่มีการใช้เส้นสายหรือถือพวกถือพ้องแต่อย่างใด และคณะกรรมการคัดเลือกถือว่าเป็นมีคุณวุฒิจากหลายๆจังหวัด ในนามของผู้จัดการทีมฯจะให้ความเป็นธรรมกับทุกทีมที่มาจากทั่วประเทศในการคัดตัวครั้งนี้ การเข้ามาตรงนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไม่หวังผลประโยชน์ แต่ทุกคนมาด้วยใจ จะด้วยงบประมาณเท่าไหร่ก็ยอม เพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ เราทำเพื่อส่วนรวมด้วยจิตมุ่งมั่นที่อยากเห็นเซปักตะกร้อเป็นกีฬาอันดับต้นๆของโลกให้ได้ หลังจากคัดตัวในครั้งนี้ก็จะเก็บตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยตนและนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงอยากฝากถึงพี่น้องชาวไทยทุกคนว่าเราทุกคนมีความมุ่งมั่น มีความศรัทธา และจะทำให้ดีที่สุด


เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี นำร่อง โครงการคนดีศรีสุพรรณ สร้างกระแสการพัฒนาคนและสังคม





                 ที่ห้องประขุมขุนแผน ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี  ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์  จองพานิช  ผู้ว่าราขการจังหวัดสุพรรณบุรี  ประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการนำร่อง "โครงการคนดีศรีสุพรรณ " เพื่อสร้างกระแสการพัฒนาคนและสังคมในระดับจุลภาค(คพส.)สุพรรณบุรี  โดยผู้ว่าราขการจังหวัดสุพรรณบุรีกล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรีเริ่มดำเนินการตามโครงการนำร่องเพื่อสร้างกระแสการพัฒนาคนและสังคม โดยมีเป้าหมาย เพื่อเน้นการสร้างพื้นฐานให้เด็กเยาวชน และประชาชน เป็นคนดี มีศิลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม วัตถุประสงค์ในการจัดอบรม ในครั้งนี้ ก็เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เป็นผู้มีศิลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม มีความเป็นผู้นำ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต เป็นผู้มีวินัย สำนึกในการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นผู้มีวิจารณญาน รู้จักผิดชอบชั่วดี กลั่นกรองวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารอย่างมีเหตุผล เลือกปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง เหมาะสมกับชุมชนและสังคม และเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาคนและสังคม ให้เหมาะสมดังที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจังหวัดต้นแบบในระดับชาติ









                 ขณะที่นายวีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี  รองผู้ว่าราชการตัวหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้จัดอบรม เด็ก เยาวชน และประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจตระหนักและเห็นคุณค่าของการทำความดี องค์ภาคีการพัฒนาในระดับตำบลและหมู่บ้าน มีส่วนร่วม ในการพัฒนาประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชน ก่อให้เกิดชุมชนเข้มแข็งสังคม มีความสุขและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพในตำบล ให้มีส่วนร่วมกันขับเคลื่อนโครงการตำบลคนดีศรีสุพรรณ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  โดยให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ในตำบลได้เป็นคนดี ตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 11 ประการ ของโครงการคนดีศรีสุพรรณ เพื่อกระตุ้นให้มีจิตสำนึกในการปฏิบัติตน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคมจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราขการจังหวัดสุพรรณบุรี ขอฝากทุกภาคส่วนหากมีปัญหาหรืออุปสรรค ต้องร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อให้ผลการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเต็มศักยพาพอย่างยั่งยืนตลอดไป










เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445

สุพรรณบุรี พ.ต.อ. สุทธิ พวงพิกุล สนธิกำลัง กวาดล้างยาเสพติด จับเครือข่ายได้เพียบ




            ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ระดมกำลังร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด ทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ลดระดับการแพร่ระบาดยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล











             วันนี้ (28 ก.ย. 58 )เมื่อ เวลา 05.30 น. พ.ต.อ. สุทธิ  พวงพิกุล     รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสุพรรณบุรี , สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 7 , ทหาร , ฝ่ายปกครอง ,  สาธารณสุขและอาสาสมัคร รวม 200 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีร้องเรียนการแพร่ระบาดยา เสพติด ณ บ้านโพธิ์พระยา หมู่ 3 , หมู่ 7  อ.เมืองสุพรรณบุรี และ  บ้านมดแดง หมู่ 1 , หมู่ 2 ต. มดแดง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยเข้าทำการตรวจค้นบ้านผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 15 หลัง ขณะเดียวกันระหว่างวันที่  26 – 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนสถานีตำรวจทุกสถานีได้ทำการระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดพร้อมกัน โดยจับกุมคดียาเสพติดจำนวน 37 ราย รวมของกลาง ยาบ้า 5,021 เม็ด  ,ยาไอซ์ 1.54 กรัม  และกัญชา 2.16 กรัม  ตรวจยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 21 รายการ มูลค่า 1,220,300 ล้านบาท ประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน ทองรูปพรรณ 2 บาท เงินสด 64,300 บาท









                 ทั้งนี้การนำกำลังกวาดล้างดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลดระดับการแพร่ระบาดยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนให้ปรากฏผลชัดเจนเป็นรูปธรรม  การค้นหาผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา  การปราบปรามและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน  และทำให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด







เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445