สุพรรณบุรี พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา มอบบ้านจิตอาสาผู้ยากไร้ เทิดไท้ องค์ราชันย์

  

             พระครูพิพัฒน์สุวรรณาภรณ์  เจ้าอาวาสวัดหนองเพียร รองเจ้าคณะอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1(มทภ.1) พล.ต.วสุ เจียบมสุข ผบ.มทบ.17 พ.อ.กุญช์ภัสร์ หาญสมบูรณ์  เสธ.บก.ควบคุม มทบ .17 ร่วมกันมอบบ้านผู้ยากไร้ เทิดไท้ องค์ราชันย์ ให้กับนางบุญนาค อุ่นศรี ชาวบ้าน ต.บางงาม อ.ศรีประจันต์ ซึ่งเป็นผู้มีฐานะยากจน แต่เป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานสาธารณะต่างๆ

             โดย พล.ท.กู้เกียรติ กล่าวว่าได้มอบนโยบายให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาค ที่ 1 เข้าไปช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนที่มีความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยให้มีการบูรณาการร่วมกับกับหน่วยงายราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลการปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 17 จึงได้จัดทำโครงการการซ่อมสร้างบ้านผู้ยากไร้ เทิดไท้องค์ราชันย์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ 70 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบ้านให้กับพี่น้องประชาชน ที่มีฐานะยากจน สภาพบ้านชำรุดทรุดโทรมมาก รวมทั้งซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ที่ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติต่างๆ เช่นอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย รวมทั้งให้ประชาชนผู้ยากไร้ แต่มีความประพฤติดี มีความเสียสละ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีกำลังใจที่จะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้

            สำหรับการก่อสร้างและมอบบ้านให้กับนางบุญนาคในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากผู้มีจิตศรัทธาจากหลายภาคส่วน คือ พระครูพิพัฒน์สุวรรณาภรณ์  รองเจ้าคณะอำเภอศรีประจันต์ พล.ต.ตสุคุณ พรหมายน อดีต ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงาน สภ.ศรีประจันต์ ผกก.ศรีประจันต์ สาธารณสุขอำเภอศรีประจันต์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุพรรณบุรี สาขาศรีประจันต์ โดยใช้กำลังทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 17 ในการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและส่งมอบให้กับนางบุนนาค อ่อนศรี เป็นที่เรียบร้อย

 เกรียงไกร  ก่อเกียรติตระกูล  บรรณาธิการข่าว        

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ตรวจเยี่ยมชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี

          ที่ โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายแพทย์สาโรจน์  มะรุมดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ,นางจุฑามาศ  โกมลศิริสุข นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ   ร่วมตรวจเยี่ยมชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมรับชมการซ้อมการแสดง TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP ๒๐๑๘  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เยาวชนทีม SPSS ของโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี และทีมงานในการเข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศ รุ่น Teenage ในระหว่างวันที่ ๓ – ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น ๔ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพมหานคร

 

            ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ส่งทีมตัวแทนจากโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าประกวดในรุ่น Teenage ระดับภาคกลางและตะวันออก  เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์การค้าแปซิฟิก พาร์ค ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยได้รับรางวัลที่ 3 เป็นตัวแทนในการประกวดในระดับประเทศ

            สำหรับการประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2018  เป็นกิจกรรมหนึ่งของ ชมรม TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแส “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงออกและแสดงความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการป้องกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ 1.รุ่น Junior อายุ 6 -9 ปีบริบูรณ์ 2.รุ่น Pre-Teenage อายุ 9 ปีขึ้นไป – 14 ปีบริบูรณ์ และ 3.รุ่น Teenage อายุ 14 ปีขึ้นไป – 22 ปีบริบูรณ์

 เกรียงไกร  ก่อเกียรติตระกูล  บรรณาธิการข่าว        

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

เทพสตรีฯ ที่รัก

       ชัยนาท นัดสังสรรค์            แหล่งพบกัน " เทพสตรีฯ "
หกหนึ่ง ปีจอนี้                           ที่เหลืออยู่ ดูงดงาม
      ชายหนุ่ม ยังหล่อเหลา        พบเพื่อนเก่า ไม่หวงห้าม
สาวน้อย ชวนติดตาม               ความสัมพันธ์ อันเนิ่นนาน
      ป.กศ. รุ่นสอง                      รักปรองดอง ยังสืบสาน
สายเลือด จิตวิญญาณ              ยังซาบซึ้ง ติดตรึงตรา
      หกสิบ ปีผ่านไป                   ยังสู้ไหว มาเห็นหน้า
อายุ  แปดสิบกว่า                      มารวมรุ่น อบอุ่นใจ
      หยัดยืน ได้อาจอง               ชีพสูงส่ง งามสดใส
" เทพสตรีฯ " อันเกรียงไกร        ประสาทให้ มีวิชา
      กราบครู รู้สำนึก                   น้อมรำลึก  ชั่วดินฟ้า
พระคุณ ของครูบา                     มากเกินกว่า คำรำพัน
      ขอพร ฟ้าประทาน               ครูอาจารย์ จงสุขสันต์
เพื่อนเพื่อน  จงขยัน                  หมั่นหายใจ ให้ดูดี
      พบกัน ใหม่ปีหน้า                ถ้าดินฟ้า ยังปรานี
รวมรุ่น " เทพสตรีฯ "                  นิจนิรันดร์ รักกันจริง

            นิ่มนวล เวชปาน ( หาญทนงค์ ) ผู้ประพันธ์
   โรงแรมเจ้าพระยาธารา ริเวอร์ไซด์ - จังหวัดชัยนาท

                     27  มกราคม  2561

วช.จุดประกายบัณฑิตวิจัยรุ่นใหม่

               สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.ในฐานะเลขานุการสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หนุนสร้างบัณฑิตวิจัยคุณภาพและเพิ่มวิชาชีพนักวิจัย

                ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  กล่าวภายหลังพิธีลงนามสัญญารับทุนอุดหนุนการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย แผนพัฒนาศักยภาพบัณฑิตวิจัยรุ่นใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2561 กับ 35 มหาวิทยาลัย ภายใต้แผนพัฒนาศักยภาพบัณฑิตวิจัยรุ่นใหม่ ณ ห้องคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร วันนี้ (30 ม.ค.61) ว่า วช.ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย แผนพัฒนาศักยภาพบัณฑิตวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อให้มหาวิทยาลัยที่ได้รับทุนอุดหนุนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารทุนฯ และดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งเป็นเวทีรับฟังแลกเปลี่ยนความรู้ และเผยแพร่การให้ทุนลักษณะนี้กับมหาวิทยาลัยผู้รับทุน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างผลงานวิจัยให้เป็นที่ยอมรับและส่งเสริมพัฒนานักศึกษาเพื่อไปเป็นนักวิจัยรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนนักวิจัยเฉลี่ย  14 คนต่อประชากร 10,000 คน ซึ่งน้อยมาก จำเป็นต้องเพิ่มนักวิจัยอีก 5 เท่า เพื่อให้เท่ากับค่าเฉลี่ยของโลกที่มีนักวิจัย 60 คนต่อประชากร 10,000 คน ดังนั้น วช.ในฐานะหน่วยงานหลักส่งเสริมและพัฒนานโยบายด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ จึงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากำลังคนเพื่อให้เกิดวิชาชีพนักวิจัย การพัฒนาบัณฑิตศึกษาจึงเป็นกิจกรรมสำคัญ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้บัณฑิตทั้งระดับปริญญาโท และปริญญาเอกสามารถทำการวิจัยและมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่เหมาะสม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยของประเทศ เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม

     
            ทั้งนี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการ วช.ได้มอบเกียรติบัตร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่นิสิต นักศึกษา ผู้ได้รับการสนับสนุนทุนด้วย

            ด้าน ดร วิภารัตน์ ดีอ่อง รองเลขาธิการ วช. ประธานพิธีลงนามสัญญาฯ ความร่วมมือกับ 35 มหาวิทยาลัย ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “การบริหารทุนดังกล่าวฯ” ว่า วช.ให้ความสำคัญกับการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง  ความร่วมมือระหว่าง วช.กับมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นการสร้างโอกาสให้บัณฑิตเป็นนักวิจัยรุ่นใหม่ในการทำแผนงานโครงการวิจัยอย่างเป็นระบบ และเป็นนักวิจัยที่เข้มแข็ง มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 วช.ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการสนับสนุนทุนทำกิจกรรมเกี่ยวกับงานวิจัย โดยใช้ทิศทางของกรอบวิจัยมุ่งเป้า และมีข้อเสนอโครงการของ 35 มหาวิทยาลัย ผ่านการพิจารณารวม 433 โครงการ แบ่งเป็นปริญญาโท 227 โครงการ ปริญญาเอก 206 โครงการ ในวงเงินงบประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนในปีงบประมาณ 2562 วช.อยู่ระหว่างเตรียมการให้สอดคล้องกับวาระของประเทศ โดยขอให้เชื่อมั่นว่าทุกโครงการที่ได้รับการสนับสนุนทุนนั้น พิจารณาในเชิงคุณภาพ

              นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเรื่อง การเขียนรายงานผลการดำเนินกิจกรรมฯ เกี่ยวกับงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนฯ จาก วช. โดยนางนิตยา พุทธโกษา ผู้อำนวยการกองบริหารแผนและงบประมาณการวิจัย วช. เพื่อให้นิสิต นักศึกษา เข้าใจชัดเจนและดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งได้รับความสนใจและมีการสอบถามในประเด็นต่าง ๆ จำนวนมาก

จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์  กรรมการที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ วช.

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

สระบุรี จัดมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ไร้แอลกอฮอล์ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2561

              เทศบาลเมืองสระบุรีจัดงานมหกรรมอาหารสะอาด ร่วมกับกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดงานมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ไร้แอลกอฮอล์ ครั้งที่ 7   ระหว่าง 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2561 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี

  

             เมื่อ 29 มกราคม 2561 เวลา19.00น .ดร.ภาณุพงศ์  ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรีและคณะผู้บริหาร ร่วมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บูญอยู่  ขอพรประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมจัดงาน กล่าวรายงานการจัดงานมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ไร้แอลกอฮอล์ ครั้งที่ 7  ประจำปี 2561   โดยมีนายบัณฑิต  เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางพจนันต์  เทวีทิวารักษ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีร่วมเป็นประธานเปิดงาน มี  เจ้าหน้าที่เทศบาล พนักงานราชการ ลูกจ้าง และร้านค้าประชาชนในชุมชนได้เข้าร่วม "มหกรรมอาหารสะอาดและปลอดภัย หนุนการท่องเที่ยว กว่า 80 ร้านค้า  เข้าร่วมกิจกรรม มีประชาชนร่วมงานจำนวนมาก

              ดร.ภาณุพงศ์  ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี กล่าวว่า  เทศบาลเมืองสระบุรีโดยสำนักการสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม  กำหนดจัดงานมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ไร้แอลกอฮอล์ ครั้งที่ 7  ประจำปี 2561 ขึ้นในวันที่ 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2561 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี โดยให้เหตุผลว่าอาหารปลอดภัยเป็นนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมดูแลสุขภาพของประชาชน เนื่องจากอาหารมีความสำคัญอย่างต่อสุขภาพ  การมีสุขภาพดีของประชาชนถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิตและการพัฒนาประเทศ   เพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดสระบุรี เป็นการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารอร่อย ได้มาตรฐาน มีคุณภาพประจำจังหวัดสระบุรี ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปสามารถเลือกซื้ออาหารที่สะอาดและปลอดภัย รวมทั้งให้ผู้ประกอบการได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นแรงจูงใจให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพร้านอาหารของตนให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้นต่อไป โดยมีการรณรงค์ส่งเสริมเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ทั้งความสะอาดและรสชาติที่ได้รับการรับรอง ผ่านหลักเกณฑ์ตามหลักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ

 
                ซึ่งในงานจะมีกิจกรรมมากมาย  อาทิ  การออกจำหน่ายอาหารที่ถูกสุขลักษณะ   การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน  ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน  การจัดกิจกรรมการประกวด การตอบปัญหาชิงรางวัล การประกวดร้านอาหารสะอาดและสวยงาม และการโหวตร้านอาหารอร่อยขวัญใจประชาชน ทุกคืน นอกจากนี้ยังมีดนตรี มหรสพตลอดงาน

                เทศบาลเมืองสระบุรี  ขอเชิญชวนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีและใกล้เคียงร่วมช้อปอาหารสะอาด  มีคุณภาพ  ชิมเมนูนานาชนิด  ชมการแสดงอันหลากหลายในมหกรรมอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ไร้แอลกอฮอล์ ครั้งที่ 7  ประจำปี 2561 ในวันที่ 29 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2561 นี้

(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว        

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

สระบุรี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมปศุสัตว์และชุมนุมสหกรณ์โคนม พบปะกลุ่มเกษตรกร เขตภาคกลาง

          สระบุรี  กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมปศุสัตว์และชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี พบปะกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโคนม ติดอาวุธเกษตรกรรองรับการเปิดเสรีไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปั้นแบรนด์นมดันขยายส่งออก

             วันนี้(29 ม.ค.2561)โรงแรมเซอร์เจมส์รีสอร์ท & คันทรีคลับ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี  นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินทางมาเปิดการประชุมหารือเชิงปฏิบัติการ และพบปะเกษตรกรผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโคนมในเขตภาคกลาง เพื่อติวเข้มและเตรียมความพร้อมเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทยรองรับการเปิดเสรี FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ ในปี 2564 และปี 2568 พร้อมร่วมจัดนิทรรศการให้ข้อมูลและคำปรึกษาเกษตรกรโคนมเรื่องการตลาดและการพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติประจำปี 2561

           นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม กล่าว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกับกรมปศุสัตว์ และชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จัดประชุมหารือเชิงปฏิบัติการกับกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์โคนม และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโคนมภาคกลาง เพื่อให้ข้อมูลเรื่องการเปิดตลาดสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ พร้อมจัดวิทยากรบรรยายถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์การเลี้ยงโคนมในประเทศนิวซีแลนด์ การผลิตและการตลาดนมฮอกไกโดในประเทศญี่ปุ่น และแนะนำโครงการ “จับมือผู้ประกอบการโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศใช้ประโยชน์จาก FTA” ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อช่วยผู้ประกอบการโคนมไทยหาตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ โดยกรมฯ จะคัดเลือกผู้ประกอบการเข้ารับการอบรม เพื่อพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้านมและผลิตภัณฑ์นม และหาช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเน้นตลาด CLMV และจีน ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการจะได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Top Thai Brands ในประเทศ CLMV และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์เหลือศูนย์แก่ไทยแล้ว ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน และอาเซียน-จีน

             นอกจากนี้ ในช่วงงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ที่จัดขึ้นโดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2561 ณ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดคูหาแสดงนิทรรศการภายในงาน เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความตกลง FTAs ของไทย แนะนำข้อมูลการใช้ประโยชน์และโอกาสส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ที่ไทยมีกับนานาประเทศ และให้ข้อมูลรายละเอียดของโครงการ“จับมือผู้ประกอบการโคนมไทยบุกตลาดต่างประเทศใช้ประโยชน์จาก FTA”กับเกษตรกร ผู้ประกอบการโคนมที่เข้าร่วมงานด้วย

          นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ช่วยหาตลาดในประเทศและต่างประเทศ ให้เกษตรกรโคนมไทยรับมือสินค้านมและผลิตภัณฑ์จากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่อาจเข้ามาแข่งขันจากการเปิด FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ ในปี 2564 และปี 2568 ขณะเดียวกัน ให้ปั้นแบรนด์ “Smile Milk” ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของกรมการค้าต่างประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากกองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกษตรกรในเครือชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย

              ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมจับมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการเตรียมผู้ประกอบการและเกษตรกรโคนมไทยล่วงหน้าก่อนเปิดตลาดนมและผลิตภัณฑ์ในปี 2564 และปี 2568 ให้มีความพร้อมรับมือการแข่งขันจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็จะต้องใช้โอกาสที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนและจีน เปิดตลาดลดภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ให้ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของไทยไปต่างประเทศ ซึ่งหลังจากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และสระบุรี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและกรมปศุสัตว์ มีกำหนดจะลงพื้นที่พบปะกับเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมครั้งต่อไป ในจังหวัดขอนแก่นและกาญจนบุรี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้

                สำหรับผู้ประกอบการและเกษตรกรที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ข้างต้น สามารถเข้าเยี่ยมชมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (ภายในบริเวณพื้นที่จัดนิทรรศการของกรมปศุสัตว์) ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2561 ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี หรือติดต่อสอบถามที่สายด่วน FTA Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 0 2507 7555 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ

(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   บรรณาธิการข่าว        

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

สระบุรี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มอบจักรยาน ตามโครงการ ส.อ.ท. 50 ปี " ปันรัก...สู่่โรงเรียนขาดแคลน "

             สระบุรี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี มอบรถจักรยาน 7,000 คัน  " ปันรัก...สู่โรงเรียนขาดแคลน "

              เมื่อ 29มกราคม2561นายเกียรติศักดิ์  ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานรับมอบรถจักรยาน ณ ห้องประชุมสวนริมเขา อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี มีนายไพรัตน์ เอื้อชูยศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สายงานกิจกรรมเพื่อสังคมและคณะกรรมการมูลนิพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมมอบรถจักรยานทั่วประเทศ 7,000 คัน ร่วมกันส่งมอบรถจักรยานตามโครงการ ส.อ.ท. 50ปี  "ปันรัก...สู่่โรงเรียนขาดแคลน" จังหวัดสระบุรีได้รับมอบรถจักรยานจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรีจำนวน45คันและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมมอบรถจักรยานอีก 45คัน รวมทั้งหมด 90 คัน

                 ในการส่งมอบรถจักยานในครั้งนี้7,000คันจังหวัดสระบุรีจะส่งมอบให้กับโรงเรียนที่ขอมาจำนวน15โรงเรียนในพื้นจังหวัดสระบุรีสร้างความดีใจให้นักเรียน การส่งมอบรถจักรยานให้โรงเรียนเพื่อให้นักเรียนผู้ยากไร้ที่ยากจนและมีบ้านอยู่ห่างไกลโรงเรียนไว้ยืมปันมาโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนได้อีกด้วย

 

(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)    บรรณาธิการข่าว        

เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445