วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559

กรมอุทยานฯ แจ้งข้อหา วัดป่าฯ ครอบครองที่ดิน กว่า 900 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต



           วัดเสือ-มูลนิธิวัดป่า-บริษัทไทยเกอร์ เทมเพิล จำกัด โดนคดีอีกอื้อ หลัง จนท.14 หน่วย สนธิกำลังตรวจสอบพบครอบครองที่ดิน สปก.และกรมป่าไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตกว่า 900 ไร่




              วันนี้ 5 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายค้น ที่ มค 432/2559 ให้กับผู้ร้องขอ คือนายสินชัย เอกทรัพย์สกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อทำการตรวจค้นวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีพระสุทธิสารเถร เป็นเจ้าอาวาสและประธานมูลนิธิ และนายอธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแล
 คณะเจ้าหน้าที่นำโดยนายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายศิริ อัคคะอัคร ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ(ผอ.สปฟ.) นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานฯ




              นายสุนทร ฉายวัฒนะ ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ นายชาญวิทย์ กันยา นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ นายศุภากร ปทุมรัตนาธาร หน.ฝ่ายสุขภาพสัตว์ กรมอุทยานฯ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ "หมอล็อต" นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และคณะสัตวแพทย์ กรมอุทยานฯจากทั่วประเทศสนธิกำลังมาดำเนินการขนย้ายเสือโครง จำนวน 137 ตัว โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ถึงวันที่ 4 มิ.ย.รวม 6 วันคณะเจ้าหน้าที่สามารถขนย้ายเสือของกลางได้ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้เสือโคร่งในบัญชีของกลางมีทั้งหมด 147 ตัว แต่วันที่ 28 ม.ค.กรมอุทยานฯ ขนย้ายไป 5 ตัว และวันที่ 23 ก.พ.ขนย้ายอีก 5 ตัว รวม 10 ตัว ดังนั้นจึงยังคงเหลือเสือโคร่งของกลางจำนวน 137 ตัว
 นอกจากการขนย้ายเสือโคร่ง จำนวน 137 ตัวแล้ว คณะเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 181 เช่นซากลูกเสือโคร่งถูกดองเอาไว้ในขวดโหล และซากลูกเสือโคร่งรวมทั้งซากหมีขอ ซากกระรอก ถูกนำไปแช่แข็งปะปนกับซากไก่ที่เป็นอาหารของเสือ และยังสามารถตรวจยึดซากหมีควาย ซากเสือดาว ซากเสือไฟ โครงกระดูกเสือ ซากหนังเสือเต็มตัว รวมทั้งเครื่องรางของขลังที่ทำจากซากเสือโคร่งอีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ประเมินราคาที่รัฐเสียหายมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 3,613,950 บาท




              โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ร่วมกระทำผิดได้ในเบื้องต้น จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายเนตร กุลเรืองไกล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/15 หมู่ 4 ตงลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายก้องเกียรติ จันเพ็ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ และพระจักรกฤษณ์ อภิสุทธิพงษากุล หรือพระบอย พระเลขาของพระวิสุทธิสารเถร (ภูษิต ขันติธโร) หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน และประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ามาตรา 19 , 20 , 47 , 55  และ 59 โดยมีพระลูกวัดที่เกี่ยวข้องอีก 2 รูปคือพระละม่อม วันทิยา และพระสนองชัย แสงนาค ที่เป็นผู้ขนซากหนังเสือโคร่ง และเครื่องรางของขลังชนิดต่างๆออกจากกุฏิเจ้าอาวาสนำมาไว้บนรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ชษ 5583 กทม.ที่มีนายเนตร กุลเรืองไกล เป็นคนขับ

              นอกจากนี้เวลา 10.30 น.ของวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ยังดำเนินการตรวจสอบที่ดินที่ทางวัดครอบครอง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมดำเนินการประกอบด้วย จนท.สำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ จนท.ตร.บก.ปทส.จนท.ตร.สภงไทรโยค จนท.สนง.ที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี จนท.สนง.ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี จนท.สายตรวจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาย 1 จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.10(ห้วยน้ำขาว)จนท.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ 13 กรมป่าไม้ จนท.สายตรวจฯสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) จนท.กองร้อย ตชด.ที่ 136 โดยมีสุภาพ กอฟัก กำนันตำบลสิงห์ เป็นผู้นำพาตรวจสอบ โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค.432/2559 ลงวันที่ 30 พ.ค.2559

               ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดค่าพิกัดด้วยระบบดาวเทียว (GPS)ไปตามแนวกำแพงวัดรอบวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ คำนวณพื้นที่เบื้องต้นได้ทั้งหมด 1,419-2-49 ไร่ และจากการตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สำนักงานฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี พบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตาม พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ท้องที่อำเภอไทรโยค และอำเภอเมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี พ.ศ.2520 โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอใช้ประโยชน์เป็นเนื้อที่ประมาณ 391-1-21 ไร่
นอกจากนี้คณะเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี พบว่าพื้นที่ที่ตรวจสอบบางส่วน มีเอกสารเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก.) โดยได้มีการแสดงหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3 ก.) เลขที่ 2621 เล่ม 27 ก.หน้า 21 เลขที่ดิน 1 ระวางรูปถ่ายทางอากาศชื่อ อำเภอไทรโยค หมายเลข 4837/// แผ่นที่ 113 ตำแหน่งที่ดิน ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 24-1-36 ไร่ ออก ณ วันที่ 2 เมษายน 2550

              โดย นส.3 ก.ฉบับนี้ เดิมคือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) เล่มที่ 6 หน้า 6 สารบบ-เล่มหน้า 30 ที่ดินตั้งอยู่ ต.สิงห์ หมู่ 5 อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 25-0-93 ไร่ ออก ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2537 ซึ่ง นส.3 ก.ฉบับนี้ เดิมคือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ นส.3 เล่ม 6 หน้า 6 สารบบ หน้า 30 ที่ดินตั้งอยู่ หมู่ 5 ต.สิงห์ องไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 28-2-30 ไร่ ออก ณ วันที่ 23 มีนาคม 2520
จากการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของพื้นที่ที่ตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ตรวจสอบจำนวนประมาณ 1419-2-49 ไร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอใช้ประโยชน์เป็นเนื้อที่ประมาณ 391-2-49 ไร่ และจากการลงรายละเอียดรูปแปลง นส.3 ก.ทั้ง 2 ฉบับ เป็นพื้นที่ ตาม นส.3 ก.จำนวน 2 ฉบับ รวมเนื้อที่ 97-0-45 ไร่ คงเหลือพื้นที่ที่ไม่มีการขอใช้ประโยชน์จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีที่ไม่อยู่ในพื้นที่ นส.3 ก.ที่นำมาแสดงทั้ง 2 ฉบับ รวมจำนวนประมาณ 931-0-83 ไร่




             ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว มีความเห็นพร้อมกันว่า พื้นที่จำนวน 931-0-83 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าตาม พรบ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54-55 และ 72 ตรี ฐาน ร่วมกันก่นสร้างแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต

              2.พ.ร.บ.ให้ใช้ประมลลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9.108 ทวิ ฐาน ร่วมกันเข้ายึดถือครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวดหรือทราย ในบริเวณรัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจจานุเบกษา ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรที่ดิน

               และ 3.พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 99 ฐานร่วมกันบุกรุกหรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ




             สำหรับพื้นที่จำนวน 931-0-83 ไร่ พบสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วย วิหารที่กำลังปลูกสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ขนาด 115 x 85 x 14 เมตร ตั้งอยู่ที่พิกัด 47 P 525331 E 1560257 N จำนวน 1 หลัง 2.อาคารห้องน้ำ 4 ห้อง 1 หลัง ขนาด 5.9 x 3.7 x3 เมตร ตั้งอยู่ที่พิกัด 47 P 525332 E 1560322 N และ 3.โรงเก็บของขนาด 15 x 8 x4 เมตร ตั้งอยู่ที่พิกัด 47P 525291 E 1560294 N

              โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้นายสุภาพ กอฟัก กำนันตำบลสิงห์ผู้นำพาตรวจสอบเป็นผู้ดูแล และห้ามไม่ให้มีการรื้อถอนทำลาย จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีกับวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน มูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน และบริษัทไทเกอร์ เทมเพิล จำกัด

               โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้นายอำนาจ พัชระกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) เป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษ และนายจรูญ วลัยเกษม พนักงานพิทักษ์ป่า ส.2 ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว)เป็นพยาน ในฐานความผิดตา พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน (สปก.)จังหวัดกาญจนบุรี จะเป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษ
                                         




     ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี
 เรวัติ น้อยวิจิตร   hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com  08-1910-7445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น