เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 28 ม.ค. พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เชิญ พรายมี พงส.ผทค.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ สว.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสิวณัฐ เปี่ยมสะอาด อายุ 18 ปีผู้ต้องหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องจากเมื่อคุณวันที่ 24 ม.ค.เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีผู้ถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บมือขาดที่บนถนนมาลัยแมนหน้าผับ 24 บาร์ หมู่ 4 ต.สนามชัย ทราบชื่อ น.ส.ศรีรัตน์ ปานสุรินทร์ อายุ 21 ปี สภาพมือข้างซ้ายถูกแรงระเบิดนิ้วมือฉีกขาดกระจุย และ ด.ช.นนทวัฒน์ คัสดี อายุ 14 ปีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขาส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่าเป็นวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกสีดำขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยจึงกำลังออกติดตามคนร้ายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีฟ้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและหมวกกันน็อกสีดำทิ้งไว้ที่ถนนทางเข้าหมู่บ้านน้ำเพชร 3 ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม.เจ้าหน้าที่จึงยึดมาตรวจค้นที่โรงพักพบดินระเบิดจำนวนหนึ่ง อาวุธปากกา และแผ่นป้ายทะเบียน กรต 379 กาญจนบุรี ซุกอยู่ใต้เบาะจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้ออกสืบหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆพบกลุ่มคนร้ายเป็นวัยรุ่น 6 คนสวมหมวกกันน็อกสีดำปิดบังใบหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันซ้อนท้ายกัน แล้วใช้ระเบิดชนิดทำเองโยนใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บหลังก่อเหตุได้พากันเร่งเครื่องหลบหนี จากการตรวจสอบทะเบียนรถทราบว่านายสิวณัฐ เปี่ยมสะอาด อายุ 18 ปีเป็นเจ้าของ จึงนำกำลังออกติดตามและจับกุมได้ขณะหนีไปกบดานที่บ้านเพื่อนในเขต บางนา กรุงเทพ
ควบคุมตัวมาสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพวกอายุระหว่าง 15 -18 ปีประมาณ 10 คนมาเที่ยวที่ผับ 24 บาร์ หลังผับเลิกขณะเดินมาลานด้านหน้ามีวัยรุ่นซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเข้ามาชกต่อยกลุ่มของตน พวกตนสู้ไม่ได้จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับไปเอาอาวุธซึ่งเป็นของตนเอง เป็นระเบิดประกอบเองกลับมาแก้แค้นโดยตนเป็นคนขับขี่ ส่วนนายไผ่ เป็นคนซ้อนท้ายและเป็นคนโยนระเบิด พอเห็นวัยรุ่นยืนจับกลุ่มอยู่ข้างทางคิดว่าเป็นวัยรุ่นที่ทำร้ายตนจึงโยนระเบิดใส่จากนั้นได้วนรถกลับมาโยนระเบิดใส่วัยรุ่นที่ยืนอยู่อีกฝั่งถนนโดยไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บนั้นเป็นกู้ภัยและไม่ได้ตั้งใจจะให้บาดเจ็บหลังก่อเหตุจึงแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับ ตนรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่ก่อขึ้นและฝากขอโทษและฝากถึงเพื่อนๆที่ร่วมก่อเหตุให้รีบเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีพร้อมกับสืบสวนติดตามผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
เกรียงไกร ก่อเกียรติตระกูล บรรณาธิการข่าวท้องถิ่น อู่ทองนิวส์
เรวัติ น้อยวิจิตร hub admin rewat.noyvijit@hotmail.com 08-1910-7445
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น