วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561

พลตรีทรงกลด ทิพย์รัตน์ มอบหมาย พลตรีพิชิต บุตรวงศ์ ยื่นจดทะเบียน พรรคพลังชาติไทย


            พลตรีทรงกลด  ทิพย์รัตน์  ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย  มอบหมาย พลตรีพิชิต บุตรวงศ์ ว่าที่เลขาธิการพรรค  ยื่นจองชื่อ พรรคพลังชาติไทย  เป็นพรรคการเมืองใหม่ อันดับ 1 โดยมี   คุณบุญญาพร นาตะธนภัทร  ประธาน " จิตอาสา พลังชาติไทย " ศรีภรรยา  นายวีระพล รักธรรม ว่าที่โฆษกพรรคฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมงานพร้อมเพรียง


              วันที่ 2  มีนาคม  2561  ลิขิต  รักอยู่  บรรณาธิการข่าว นสพ.สมุทรสาครนิวส์ ในกลุ่มสื่อท้องถิ่นออนไลน์ รายงานความคืบหน้า การยื่นจองชื่อ พรรคพลังชาติไทย ในฐานะพรรคการเมืองใหม่    โดยบรรยากาศการยื่นจดแจ้งพรรคการเมืองใหม่วันแรก เป็นไปอย่างคึกคัก มีนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. พร้อมด้วยนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. ได้เดินมาตรวจความพร้อมก่อนเปิดจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งเปิดให้บัตรคิวตั้งแต่เวลา 06.00 น. แต่ตัวแทนพรรคพลังชาติไทยมารอต่อคิวตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึง ได้รับการจองชื่อ เป็นพรรคการเมืองใหม่ อันดับ 1 ซึ่งในวันนี้ มีตัวแทนของพรรคจากทุกภูมิภาค มาร่วมเป็นกำลังใจ และ สักขีพยาน ในการจองชื่อพรรคพลังชาติไทย ในวันนี้


             โดยพรรคที่ได้ยื่นจดแจ้งชื่อเป็นพรรคแรก คือ พรรคพลังชาติไทย ต่อมาเป็นพรรคประชาไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคสังคมประชาธิปไตยประชาชน พรรคประชาชาติ พรรคชาวนาไทย พรรคพัฒนาไทย พรรคเครือข่ายประชาชนไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคพลังพลเมืองไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคไทยเอกภาพ พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคสหประชาไทย พรรคทางเลือกใหม่ พรรคชาติพันธุ์ไทย พรรครักษ์แผ่นดินไทย พรรคแผ่นดินธรรม พรรคเพื่อชาติไทย พรรคกรีน พรรคประชานิยม พรรคพลังสยาม พรรคสยามธิปัตย์ พรรคของประชาชน พรรคพลังอีสาน พรรครวมใจไทย พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคประชามติ และพรรคพลังไทยยุคใหม่ ทั้งนี้มีพรรคที่เดินทางมายังกกต.เพื่อขอจดแจ้งชื่อพรรคเป็นพรรคแรกคือพรรคพลังชาติไทย ซึ่งทาง กกต. เริ่มเปิดให้จับคิวแรกในเวลา 06.00 น.
      
             นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า ได้กำชับให้สำนักงาน กกต. อำนวยความสะดวกให้กับผู้มายื่นจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองอย่างเต็มที่ รวมถึงขอให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย และคำสั่ง คสช. อย่างเคร่งครัด ซึ่งภายหลังจากที่พรรคการเมืองใหม่มายื่นจดแจ้งชื่อพรรคแล้ว ทางกกต.จะตรวจสอบเอกสารที่นำมาในวันนี้ ซึ่งบางเรื่องทาง กกต. ต้องขอให้หน่วยงานอื่นช่วยตรวจสอบ เช่น เรื่องล้มละลาย หรือต้องคำพิพากษาหรือไม่ โดยต้องไปสอบถามที่ศาลล้มละลาย หรือถามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้ หากพรรคการเมืองมายื่นจดแจ้งชื่อพรรคเป็นจำนวนมากก็ถือว่าประชาชนให้ความสนใจในเรื่องการเมือง และทุกคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งแต่ละพรรคที่มายื่นนั้นมีเจตจำนง ที่ไม่เหมือนกัน

          ด้าน พลตรี ทรงกลด ทิพย์รัตน์  ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย คุณบุญญาพร นาตะธนภัทร ประธาน " จิตอาสา พลังชาติไทย " ศรีภรรยา พลตรีพิชิต บุตรวงศ์ ว่าที่เลขาธิการพรรค   นายวีระพล รักธรรม ว่าที่โฆษกพรรคฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค เชิญชวน ผู้ที่มี จิตอาสา ทุกท่าน ร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังชาติไทย เพื่อร่วมอุดมการณ์ ในการพัฒนาประเทศ ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า อย่างมั่นคงและแข็งแรง  ตามแนวทางของพรรคพลังชาติไทย




             พรรคพลังชาติไทย มีนโยบาย สำคัญ ที่จะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ เมื่อได้เป็นรัฐบาล  คือ การสร้างเมืองใหม่ เพื่อให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว  มีกาสิโน เหมือนหลายๆประเทศที่เขาทำกัน และ ได้เม็ดเงินเข้าประเทศ ปีละมากมาย มหาศาล  อนาคตที่สดใสของธุรกิจบ่อนคาสิโนในเอเชีย บทเรียนจาก Las Vegas Model และ Singapore Model




            เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ได้ผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้มีการดำเนินธุรกิจบ่อนคาสิโนแบบถูกกฎหมายขึ้นมาเป็นครั้งแรก แม้ว่าการพนันในรูปอื่นๆ เช่น Slot Machine หรือการแข่งเรือยนต์ จะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายในญี่ปุ่น ภายในปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเสนอกฎหมายลูกให้รัฐสภาพิจารณาเรื่องการควบคุมผลกระทบของบ่อนการพนัน เช่น การป้องกันเรื่องคนติดการพนัน หรือการที่กลุ่มอาชญากรจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้



            หากกฎหมายนี้ผ่านรัฐสภา ในปีหน้า เมืองใหญ่ๆ ก็สามารถเริ่มดำเนินการให้มีแหล่งคาสิโนขึ้นมาได้ในรูปแบบ Entertainment Complex หรือ Integrated Resort ที่จะมีทั้งโรงแรม แหล่งบันเทิง และบ่อนการพนัน อยู่รวมกันในที่เดียวกัน เป็นที่คาดหมายกันว่า เมืองที่จะมีคาสิโนในรูปแบบ Integrated Resort คือ โตเกียว โอซาก้า และโยโกฮามา
            ซึ่งทางพรรค พลังชาติไทย ก็เล็งเห็นถึงช่องทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในรูปแบบ ผ่านเมืองไหม่ระบบนี้ เช่นกัน ซึ่งจะสามารถหารายได้เข้าประเทศปีหนึ่งๆ กว่าหลายล้านล้านบาท โดยมีนักลงทุนจากต่างชาติมาลงทุนเอง ประเทศไทยไม่ต้องใช้เงินลงทุนแม้แต่บาทเดียว


              การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวที่นำเอาวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีการประกอบอาชีพของเกษตรกร ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มาผสมผสาน ด้วยระบบการบริหารการจัดทรัพยากรที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชน อันก่อให้เกิดการพัฒนาเครือข่ายองค์ความรู้ของเกษตรกรนำไปสู่การถ่ายทอดภูมิปัญญา และเทคโนโลยีการเกษตรแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไป

           การท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือการเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ชุมชนเกษตรกรรม สวนเกษตรวนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ สถานที่ราชการ ตลอดจนสถาบันการศึกษาที่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตร ที่ทันสมัย ฯลฯ เพื่อชื่นชมความสวยงาม ความสำเร็จและเพลิดเพลินในกิจกรรม ทางการเกษตรในลักษณะต่างๆ ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ บนพื้นฐานความรับผิดชอบ และมีจิตสำนึกต่อการรักษา สภาพแวดล้อมของสถานที่นั้น 
              โดยทางพรรคพลังชาติไทย ได้มีนโยบาย มุ่งเน้นการให้ประชาชน ได้มีส่วนร่วม ในฐานะเจ้าบ้าน ของชุมชน มีการจัดตั้งร้านค้าชุมชนตำบล เพื่อจัดจำหน่ายผลิตผล  ผลิตภัณฑ์ ของชุมชน  ดดยชุมชน และเพื่อชุมชน มีการจัดแบ่งปันผลกัน ชาวบ้านทุกคน เป็นสมาชิก ถือเป้นการสร้างธุรกิจร่วมกัน ไม่แข่งขัน  ไม่ขัดแย้ง  ร่วมกันคิด  ร่วมกันทำ ได้กำไร ก็แบ่งกัน  ชุมชนก็เข้มแข็ง  การสนับสนุน จากภาครัฐก็ทำได้ง่าย โดยผ่านระบบกลุ่ม  ซึ่งทางพรรคก็ยังคงมุ่งเน้นไปที่การสร้างสวัสดิการชุมชน ให้แก่ประชาชน อย่่างทั่วถึง


            การขุด  คอคอดกระ เส้นทาง 9 A  โดยจะเริ่มต้นจากทะเลอันดามันที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ผ่านอำเภอต่างๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจะออกทะเลอ่าวไทยที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีความยาว 135 กิโลเมตร ...ซึ่งจะสามารถทำให้ ประเทศของเรา มีรายได้มหาศาล จากการเก็บค่าผ่านทาง  การค้าการลงทุน  



          ล่าสุดกระแสนการขุด คอคอดกระ กลับมาเป็นที่ให้ความสนใจอีกครั้งหลังจากสื่อจีนอย่าง CCTV ได้นำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง “Silk Road to The Future” และได้มีการให้ข้อมูลถึง ความร่วมมือของไทยกับจีนที่จะร่วมกันศึกษา คอคอดกระ โดยรัฐบาลจีนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยในโครงการนี้ จากการประเมินคร่าวๆโครงการนี้น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างไม่ถึง 5 ปี และถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว

             โดยทางพรรคพลังชาติไทย ได้มีนโยบาย การขุด  คอคอดกระ เส้นทาง 9 A  จากทะเลอันดามันที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ผ่านอำเภอต่างๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจะออกทะเลอ่าวไทยที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา มีความยาว 135 กิโลเมตร ..  เพื่อเป็นจุดศูนย์กลาง ของการค้า การลงทุน และระบบโลจิสติก ของ ภูมิภาคนี้



           การสนับสนุน และ ส่งเสริมการเกษตร แบบ ออแกนิค  ปลูก ขาย โดยไม่ใช้สารเคมี ยึดถือวิถีแบบ ดั้งเดิม สมัย  ปู่ย่า ตายาย  เพื่อความปลอดภัย ของผุ้บริโภค และ ตัวเอง ซึ่งตามนโยบาย ของคณะทำงานปฏิรูปประเทศ ได้เล็งเห็นว่า เมื่อสามารถปราบโกง  ปราบทุจริต ลงได้แล้ว ควรนำพาประเทศ กลับสู่สถาณการณ์ปกติ ใช้ชีวิตในแบบดั้งเดิม  ผสานกับการหารายได้เข้าประเทศ ด้วยแนวทางสมัยใหม่  สร้างเมืองใหม่ สร้างแหล่งท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่  สร้างการค้า การลงทุน ในรูปแบบใหม่ๆ เชื่อว่า  เมื่อได้คนดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง และ นำพาประชาชน ให้ย้อนกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ กอร์ปกับการ ส่งเสริมการหารายได้ ในรูปแบบใหม่ๆ จะช่วยนำพาให้ประเทสของเรา ประชาชนของเรา มีชีวิตทีี่ดี  ปากท้องพี่น้องอิ่ม   อย่างแน่นอน

                 พรรคพลังชาติไทย มีนโยบาย แน่วแน่ ที่จะยกเลิกระบบการนำเข้า สารเคมีทางการเกษตร ซึ่งเป็นอันตรายกับมนุษย์  ธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม เช่น ยาปราบศัตรูพืช และ สินค้าอันตราย ทุกชนิด ที่จะทำให้ประชาชน คนไทย ตายผ่อนส่ง เรามีนโยบายอย่างชัดเจน ที่จะสืบสานพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่จะสร้างวิถีชีวิตให้คนไทย กินอยู่อย่างพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ฯ





              ก็เป็นพรรคการเมืองใหม่ พรรคหนึ่ง  ที่น่าจับตามอง ก็อยู่ที่ประชาชนคนไทย ที่จะได้เลือก และ ตัดสินใจว่า เราจะอยู่ข้างไหน หากเลือกที่จะดำเนินชีวิต ตามรอยพ่อ .. อยู่อย่างพอเพียง เลือกที่จะเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนใคร  ไม่คดโกงใคร  ไม่ทุจริตต่อบ้านเมือง ร่วมสร้างประโยชน์สุข ให้บ้านเมือง  พรรคพลังชาติไทย  ก็คงเป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ที่จะตอบโจทย์ ในสนามเลือกตั้ง ครั้งนี้














ลิขิต รักอยู่ บรรณาธิการข่าว 
เรวัติ น้อยวิจิตร Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com 081-9107445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น