วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

สระบุรี สภาอุตสาหกรรม จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2558




              เมื่อวันที่  19 มีนาคม  2558 นายวิเชียร พุฒิวิญญูผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี  พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี  พันเอกมาโนช อ้นจันทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬาศูนย์การทหารม้า ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ร่วมเป็นเกียรติร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี2558 ณ โรงแรมเกียวอันมี   นายภิญโญ หาญศิลวัฒ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี  ให้การต้อนรับ






                นายณรงค์ศักดิ์ ชัชวาลย์ นาย เอกชัย สัตยานุกุล และ คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ได้ชี้แจงเรื่องมาตรการควบคุมและกำกับดูแลโรงงานในเขตอุตสาหกรรมในจังหวัดสระบุรี และ รับทราบการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี2557 เพื่อมีการพิจรณาการอนุมัติงบดุลแจงบัญชีรายได้ และ ค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาพร้อมสรุปความคืบหน้าการแก้ไขผังเมืองรวมของจังหวัดสระบุรี






                  ต่อมาท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมประสานโรงงานในเขตนิคมหรือนอกเขตนิคม งดปล่อยน้ำเสียและเพิ่มมาตรการบริหารจัดการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่องลงสู่แม่น้ำลำคลองที่จะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้กับนิคมอุสาหกรรม ทุกแห่งและให้มีมวลชนสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนที่จะได้รับผลกระทบทั้งสิ่งแวดล้อม และ สุขภาพชีวิตที่ต้องใกล้ชิดกับสภาวะแวดล้อม





                การจะสร้างโรงงานอะไร  ประการแรกต้องมีประชาคมกับพี่น้องประชาชนในพื้นก่อนทุกครั้งเพื่อลดความเดือดร้อนและผลกระทบทางด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนจะได้ลดการเดือดร้อนได้ด้วยซึ่งการแสดงความคิดเห็นจากประชาชนจะได้มีข้อตกลงที่ตรงกันก็สะดวกในการดำเนินงานได้ดีทั้งโรงงานและประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยใกล้พื้นที่อุตสาหกรรมนั้นได้และลดผลการกระทบความรุนแรงได้ด้วยซึ่งภายในอีก 5 ปีข้างหน้าจังหวัดสระบุรีจะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่มีวัตถดิบและอุตสาหกรรมที่ครบวงจรและจะมี เส้นทางทั้งรถยนต์รถไฟผ่านในอนาคตก็จะส่งสินค้าของจังหวัดภาคอุตสาหกรรมภาคเกษตรกรรมที่มีในจังหวัดจะได้ขนย้ายง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นและจะมีรายได้มากขึ้นโดยรายจ่ายจะน้อยลงสร้างผลกำไรมากขึ้นด้วย




               และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดสระบุรีที่มีการปรับแผนผังเมืองใหม่และผังเมืองย่อยในขณะนี้ให้สอดคล้องกับการรองรับภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดในอนาคตและภาคการศึกษาจะต้องมีการขยายพื้นที่ให้มากขึ้นตามเศรษฐกิจที่จะมาถึงนี้และจะเข้าสู่  โครงการ  EIA  เนื่องจากมีภาคประชาชนได้มีการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนรวมอย่างจริงจัง มีการร่วมมือจากภาคประชาชนเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีทางภาคอุตสาหกรรมจะมาถึงจึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งป้องกันผลกระทบที่จะมาด้วยเช่นปัญหาสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติสุขภาพประชาชนแหล่งน้ำที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้เขตนิคมอุตสาหกรรมให้มีผลกระทบน้อยที่สุดอีกด้วย.    




 
(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)
เรวัติ น้อยวิจิตร  hub admin  rewat.noyvijit@hotmail.com  08-1910-7445

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น